Review Cham’s House Kohkood 1.7


บรรยากาศรอบนอกเป็นอย่างไรมาฟังจากผมได้เลยครับ

เมื่อพูดถึงบรรยากาศรอบโรงแรมแล้วนั้นเรียกได้ว่าทุกอย่างผ่านการออกแบบและจัดวางมาได้อย่างลงตัวที่สุดเลยครับ เริ่มตั้งแต่โซนล็อบบี้ต้อนรับแขกสำหรับเช็คอินก็มีบริเวณกว้างขวาง ลูกค้าที่มาใช้บริการสามารถถ่ายรูปเพลินๆ ได้ขณะรอเจ้าหน้าที่ดำเนินการทางข้อมูลให้กับเรา อย่าลืมดื่มน้ำกระเจี๊ยบหอมเย็นชื่นใจพร้อมทั้งผ้าเย็นที่มีบริการกันด้วยนะครับ ผมนี่ขอน้ำตั้งสองแก้วเลย

ว่าแล้วก็แบกกล้องเดินถ่ายรูปถ่ายบรรยากาศไปเรื่อยเลย เพราะทุกมุมสามารถถ่ายได้หมดเลยถือว่าสวยทุกมุม ระหว่างเดินทางลงไปชายหาดก็จะพบห้องพักแบบต่างๆ ดังที่ได้กล่าวไปแล้วเมื่อตอนก่อนๆ วิวแต่ละห้องก็จะต่างกันไปเพราะอยู่ตามเขาแต่ไม่ชันมากนะ โซนห้องผมอยู่ตรงกลางพอดีที่เหมาะเจาะ ด่านล่างจะมีห้องอาหารสำหรับคอยบริการ ราคาอาหารก็จะต่างกัน โดยในช่วงเวลาเช้าถึงบ่ายๆ ราคาจะถูกกว่าช่วงเย็น เมนูอาหารก็แล้วแต่เราเลือกเลยครับ มีทั้งแบบจานเดียว และอาหารหลากหลายเมนู อาหารทะเล พิซซ่านี่ต้องให้ลองชิมเลย เพราะมันอร่อยมากจริงๆ เดินลงมาก็ถึงหาดพอดี หาดทรายขาว เม็ดละเอียดเดินแล้วนุ่มเท้า น้ำทะเลใสและมีสีออกเขียวแกมฟ้า เมื่อเห็นด้วยตาตัวเองแล้วต้องร้องว้าวกันเลยทีเดียวหละครับ เพราะมันสวยจริงๆ เราไม่ต้องเดินทางไปไกลเลย เพราะทะเลภาคตะวันออกก็สวยจนไม่รู้จะสวยอย่างไรแล้ว หาดที่นี่มีลักษณะหาดเปิดไม่มีภูเขาบัง ทำให้เรามองเห็นทัศนียภาพได้เต็มๆ แบบพาโนรามาเลยก็ว่าได้ เตียงชายหาดก็มีทั้งแบบเป็นไม้ที่รองด้วยเบาะหนังนุ่มกำลังดี และแบบที่นั่งนิ่มๆ ผมเรียกไม่ถูกแฮะ แต่รู้สึกว่านั่งและนอนแล้วรู้สึกสบายเป็นอย่างมาก มองไปที่ด้านขวาของโรงแรมโดยหันหน้าออกทะเล ก็จะพบชิงช้าของที่จามเฮาส์ ถือว่าเป็นซิกเนเจอร์ของที่นี่ ที่ใครก็มาก็อดแชะถ่ายรูปกันไม่ได้ จริงๆ ก็ได้แตกต่างอะไรมากมายจากที่อื่น แต่ทำไมไม่รู้ผมก็ใช้เวลาถ่ายรูปกับชิงช้านั้นได้นานเลย มองไปด้านซ้ายของโรงแรมโดยหันหน้าออกทะเล ก็จะพบหาดทรายทอดยาวออกไปที่ยังเป็นธรรมชาติอยู่มาก เพราะไม่มีรีสอร์ทหรือโรงแรมใดมาตั้งใกล้ๆ ทำให้เราได้เดินชมบรรยากาศที่ค่อนข้างสมบูรณ์ในพื้นที่บริเวณนั้นได้อีกมาก ผมไปในช่วงที่เสี่ยงมีฝนเล็กน้อยก็ยังหวั่นๆ อยู่ตอนดูพยากรณ์อากาศ แต่พอไปถึงแล้วฟ้าก็เปิด น้ำก็ใส แต่แอบมีคลื่นแรงนิดนึง คงไม่เหมาะกับการพายเรือเท่าไรครับ แต่พี่พนักงานบอกว่าถ้าน้ำนิ่งๆ นี่พายเรือสนุกเลย

       

 

Review Cham’s House Kohkood 1.4

บีช ฟรอนต์ พูล วิลล่า มีจำนวน 3 หลัง มีพื้นที่ใช้สอยขนาด 71 ตร.ม. เป็นห้องพักแบบวิลล่าที่ตั้งอยู่ตรงด้านหน้าของชายหาด ได้รับการออกแบบมาเพื่อให้มองเห็นวิวทะเลที่สวยงามได้แบบเต็มตา ภายในห้องมีเพดานสูงโล่งโปร่งสบาย ใช้วัสดุจากธรรมชาติในการออกแบบและตกแต่ง ใช้โทนสีสันสดใส สร้างบรรยากาศให้ดูสบายตา และมีสระว่ายน้ำส่วนตัว อีกทั้งยังสามารถเดินไปที่ชายหาดที่อยู่ห่างไปจากตัวห้องเพียงไม่มีก้าว

และ เพรสซิเดนเชี่ยล พูล วิลล่า ขนาด 2 ห้องนอน เป็นวิลล่าที่มีขนาดใหญ่สุด มีจำนวนเพียง 1 หลัง ด้วยพื้นที่ใช้สอยกว่า 212 ตร.ม.

นอกจากห้องพักที่มีให้เลือกพักผ่อนแบบหลากหลายรูปแบบแล้ว จามส์เฮ้าส์ ยังมีห้องอาหารให้บริการ 2 ห้อง คือ

ห้องอาหารไรซ์ ตั้งอยู่ทางด้านบนของรีสอร์ทติดสระว่ายน้ำ ทำให้สามารถมองเห็นทัศนียภาพอันสวยงามของรีสอร์ทและทะเลได้จากมุมสูง ให้บริการอาหารไทย เปิดให้บริการ (อาหารเช้า 07.00 – 10.00 น. อาหารกลางวัน 12.00 – 14.00 น. และอาหารเย็น 18.00 – 22.00 น.)

และ ห้องอาหารบอมบิกซ์บีชบาร์ เป็นห้องอาหารที่ตั้งอยู่ใกล้กับชายหาด ทำให้ได้สามารถสัมผัสกับบรรยากาศริมทะเล ให้บริการเมนูอาหารตะวันตกแบบ All-day dining เปิดให้บริการเวลา 11.00 – 23.00 น. และมี Happy Hour สำหรับเครื่องดื่มค็อกเทล ตั้งแต่ 17.00 – 19.00 น. ทุกวัน

สำหรับใครชื่นชอบการผ่อนคลายกับการทำสปา จามส์เฮ้าส์ มีซิกเนเจอร์สปาที่ใช้ชื่อว่า “วีฟ สปา” ที่มีเมนูทรีตเมนต์หลากหลายให้เลือกใช้บริการ ด้วยผลิตภัณฑ์จาก “ธานน์ (THANN)” ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีชื่อเสียงดังไปทั่วโลก ในด้านการผสมผสานระหว่างศิลปะการบำบัดโดยธรรมชาติ และนวัตกรรมทางผิวหนังที่ทันสมัยเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว

 

นอกจากนั้นที่ จามส์เฮ้าส์ ยังมี “เดอะ ช็อป” บูติกช้อปขนาดเล็ก ที่ให้แขกที่มาพักได้เพลิดเพลินกับการเลือกซื้อของชำร่วยแฮนด์เมด, เสื้อผ้า, และผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นเพื่อเป็นของที่ระลึกแห่งความทรงจำ

อีกหนึ่งจุดเด่นของ จามส์เฮ้าส์ คือ มีชายหาดที่เงียบสงบ มีหาดทรายขาวเนียนละเอียด มีความเป็นส่วนตัวสูงขนาดไปช่วงเทศกาลสงกรานต์ยังรู้สึกได้ว่าที่แห่งนี้ยังคงความเป็นส่วนตัวไว้สูงมาก คนไม่พลุกพล่าน ชายหาดทอดตัวยาวถึง 76 ม. ให้ได้เดินเล่นชมวิวทะเลเพลินๆ นอนอาบแดดแบบสบายๆ หรือลงเล่นน้ำทะเลที่ใสสะอาด รวมถึงยังมีกิจกรรมอื่นๆ ให้ได้ทำ อาทิ เล่นวอลเลย์บอลชายหาด พายเรือคายัค โยคะ และอีกมากมาย หรือหากการดำน้ำเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่คุณถวิลหา จามส์เฮ้าส์ จะเป็นสววรค์แห่งโลกใต้ทะเลของคุณ เพราะรีสอร์ท ตั้งอยู่ในเขตที่มีความอุดมสมบูรณ์ของเหล่าประการังและสัตว์น้ำหลากสี นานาชนิดที่อาศัยอยู่รอบๆ เกาะอีกด้วย

ไปเถอะครับ จามเฮาส์แล้วคุณจะหลงรักอย่างไม่รู้ลืม

Review Cham’s House Kohkood 1.2


จามส์เฮ้าส์ เกาะกูด รีสอร์ทสไตล์บูทีค ระดับห้าดาว

เกาะกูด ถือเป็นอีกหนึ่ง Destination ที่ใครหลายๆ คนเฝ้าฝันที่จะได้ไปเยือนสักครั้งในชีวิต ไม่เพียงแต่เฉพาะน้ำทะเลที่ใสราวกับกระจก และความอุดมสมบูรณ์ของระบบนิเวศน์เท่านั้น แต่เกาะกูดยังเป็นสวรรค์ของนักเดินทางหลายๆ คนที่ต้องการมาพักผ่อนหย่อนใจและรับการบริการแบบห้าดาว

จากรีสอร์ทหรูๆ ที่มีให้เลือกอยู่เพียงไม่กี่แห่ง และอีกหนึ่งรีสอร์ทที่ถือเป็นจุดหมายปลายทางของนักเดินทางที่แสวงหาประสบการณ์การพักผ่อนที่แตกต่าง ก็คือ จามส์เฮ้าส์ เกาะกูดเพราะจากการค้นหารีวิวในเว็บไซต์ ต่างพากันยกให้ จามส์เฮ้าส์นั้นอยู่ในลำดับต้นของทุกสถานบันรีวิวกันเลยครับ

จามส์เฮ้าส์ เกาะกูด เป็นรีสอร์ทสไตล์บูทีคระดับห้าดาว ที่แวดล้อมไปด้วยทัศนียภาพอันงดงามของธรรมชาติและความสมบูรณ์ของระบบนเวศ ภูเขาสีเขียวชอุ่ม และชายหาดทรายขาวละเอียด ที่ทอดตัวยาวตัดกับน้ำทะเลสีฟ้าใส นอกจากความงดงามของสถานที่ตั้งแล้ว จามส์เฮ้าส์ แห่งนี้ยังมีเรื่องราวที่น่าสนใจ ที่รอคอยให้นักเดินทางได้เดินทางมาค้นหาและสัมผัสมนต์สเน่ห์แห่งความเป็น “จามส์เฮ้าส์” แห่งนี้ ทำให้ จามส์เฮ้าส์ ไม่ได้เพียงเป็นแค่สถานที่พักผ่อนสำหรับนักท่องเที่ยวเท่านั้น แต่ยังเป็นสถานที่ที่จะให้นักเดินทางทุกท่านที่ได้เดินทางมาเยี่ยมเยียน ได้สัมผัสกับเรื่องราวอันทรงคุณค่าของ จามส์เฮ้าส์ที่เราจะได้สัมผัสไปพร้อมกันและมนต์เสน่ห์ที่กล่าวถึงก็คือชื่อของรีสอร์ท ซึ่งแท้จริงแล้ว “จาม” เป็นชื่อของชนเผ่าหนึ่งที่มีถิ่นกำเนิดอยู่ทางตอนใต้ของประเทศเวียดนาม ชนเผ่าจามมีชื่อเสียงในเรื่องของการทอผ้าใหมและการปลูกข้าว ซึ่งทำให้ “ใหม” และ “รวงข้าว” ถูกใช้เป็นแรงบันดาลใจหลักในสร้างรีสอร์ทแห่งนี้ ดังนั้น การออกแบบและตกแต่งของรีสอร์ทได้ถูกถ่ายทอดผ่านองค์ประกอบสองอย่างนี้เป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบโลโก้, การตั้งชื่อห้องอาหาร บาร์ หรือสปาตลอดจนการแทรกกลิ่นอายอารยธรรม “จาม” ในเกือบทุกๆ ส่วนของรีสอร์ท อาทิเช่น การออกแบบตกแต่งห้องพักที่มีประดับภาพศิลปะฝาผนังที่สร้างสรรค์ด้วยผ้าใหม, การออกแบบเครื่องแต่งกายของพนักงานที่ใช้ผ้าใหมเป็นวัสดุหลัก, เมนูอาหารและเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของข้าว ตลอดจนทรีตเมนต์สปาที่นำเอารังใหมทองคำมาเป็นส่วนหนึ่งในการปรนนิบัติผิว เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม นอกจาก จามส์เฮ้าส์ จะนำเอาเอกลักษณ์ของชนเผ่าจามมาเป็นส่วนหนึ่งของการออกแบบแล้ว จามส์เฮ้าส์ ก็ยังไม่ลืมที่จะนำความเป็นท้องถิ่นและความเป็นไทยมาผสมผสานอีกด้วย เช่น การออกแบบห้องพักแบบวิลล่าที่หลังคาถูกออกแบบให้มีลักษณะคล้ายหมวกงอบ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ประจำจังหวัดตราด การนำผลิตภัณฑ์สัญชาติไทยมาให้บริการ เช่น amenity ในห้องพักที่ใช้แบรนด์ THANN เป็นต้น