Review Cham’s House Kohkood 1.3


“จามส์เฮ้าส์” บ้านหลังที่สองของนักเดินทางทุกคน บ้านที่เต็มไปด้วยเรื่องราวอันทรงคุณค่า บ้านที่พร้อมจะต้อนรับนักเดินทางทุกท่านให้มาสัมผัสมนสเน่ห์ของจามและความเป็นไทย

ที่ตั้ง : จามส์เฮ้าส์ ตั้งอยู่บนหาดคลองหิน ทางฝั่งตะวันตกเฉียงเหนือของเกาะกูด ซึ่งอยู่ห่างจากท่าเรือแหลมศอก (จังหวัดตราด) เป็นระยะเวลาประมาณ 45 นาที โดยเรือเฟอรี่ การตกแต่งของรีสอร์ทเป็นสไตล์ Contemporary Tropical ที่เป็นการผสมผสานความร่วมสมัยและความวิจิตรงดงามอย่างลงตัวของศิลปะจาม

จามส์เฮ้าส์ เกาะกูด ให้บริการห้องพักจำนวน 21ห้อง และวิลล่าสุดหรูจำนวน 32 หลัง ซึ่งแต่ละห้องพักและวิลล่าถูกตกแต่งอย่างสวยงามในแนวร่วมสมัย พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ไม่ว่าจะเป็น เตียงเดี่ยวขนาดคิงไซส์หรือเตียงคู่ ทีวีระบบดาวเทียม แอลซีดีทีวี ขนาด 32” อินเทอร์เน็ตไร้สาย โทรศัพท์ เครื่องเล่นดีวีดี ตู้นิรภัยภายในห้องพัก เครื่องชงกาแฟ ตู้เย็นมินิบาร์ ห้องอาบน้ำฝักบัว ห้องน้ำมีอ่างอาบน้ำแบบเปิดโล่ง ห้องอาบน้ำฝักบัวกลางแจ้งแยกต่างหาก อ่างล้างมือคู่ และมีระเบียงนั่งเล่นพร้อมบริเวณเก้าอี้นั่งเล่น

ห้องพักของ จามส์เฮ้าส์ มีหลากหลายรูปแบบให้เลือกพัก สามารถแบ่งออกได้เป็นดังนี้

ดีลักซ์ โอเชี่ยน วิว มีจำนวน 17 ห้อง มีพื้นที่ใช้สอยขนาด 37 ตร.ม. เป็นห้องพักที่อยู่ในอาคารหลัก ตั้งอยู่บนพื้นที่ที่เป็นเนินเขา จากระเบียงห้องพักสามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์รอบๆ บริเวณรีสอร์ทและวิวทะเลได้ แกรนด์ ดีลักซ์ จากุซซี่ โอเชี่ยน วิว มีจำนวน 4 ห้อง มีพื้นที่ใช้สอยขนาด 48 ตร.ม. เป็นห้องพักที่อยู่ในอาคารหลัก แต่มีความพิเศษตรงที่มีอ่างจากุซซี่บนระเบียงของห้อง สามารถผ่อนคลายหรือชิลล์พร้อมดื่มด่ำทัศนียภาพอันงดงาม

ทร้อพพิคอล วิลล่า มีจำนวน 18 หลัง มีพื้นที่ใช้สอยขนาด 69 ตร.ม. เป็นห้องพักแบบวิลล่าที่ตั้งอยู่ในบริเวณสวนเขียวชอุ่มรอบๆ รีสอร์ทภายในห้องพักมีเพดานสูงโปร่งดูโล่งแบบผ่อนคลาย และใช้โทนสีสันสดใสตกแต่ง รวมไปถึงใช้วัสดุจากธรรมชาติในการออกแบบและตกแต่งสร้างบรรยากาศที่สดชื่น

ทร้อพพิคอล พูล วิลล่า มีจำนวน 10 หลัง มีพื้นที่ใช้สอยขนาด 71 ตร.ม. เป็นห้องพักแบบวิลล่าที่ตั้งอยู่ในบริเวณสวนของรีสอร์ทที่แวดล้อมไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่ ภายในห้องพักมีเพดานสูงโปร่งโล่งสบาย ใช้วัสดุจากธรรมชาติในการออกแบบและตกแต่ง และใช้โทนสีสดใส สร้างบรรยากาศสดชื่นสบายตา และยังเพิ่มความหรูหราด้วยสระว่ายน้ำส่วนตัว ในส่วนของทร้อพพิคอล พูล วิลล่านั้น ผมจะรีวิวแบบฉบับจัดเต็ม ทุกซอกทุกมุมเลยครับ เพราะผมนั้นได้เคยมาสัมผัสถึงความสวยงาม สบายของห้องนี้มาแล้ว ต้องขอบอกว่ามันสุดยอดจริงๆ แทบไม่อยากจะเช็คเอาท์กันเลย

 

Review Cham’s House Kohkood 1.2


จามส์เฮ้าส์ เกาะกูด รีสอร์ทสไตล์บูทีค ระดับห้าดาว

เกาะกูด ถือเป็นอีกหนึ่ง Destination ที่ใครหลายๆ คนเฝ้าฝันที่จะได้ไปเยือนสักครั้งในชีวิต ไม่เพียงแต่เฉพาะน้ำทะเลที่ใสราวกับกระจก และความอุดมสมบูรณ์ของระบบนิเวศน์เท่านั้น แต่เกาะกูดยังเป็นสวรรค์ของนักเดินทางหลายๆ คนที่ต้องการมาพักผ่อนหย่อนใจและรับการบริการแบบห้าดาว

จากรีสอร์ทหรูๆ ที่มีให้เลือกอยู่เพียงไม่กี่แห่ง และอีกหนึ่งรีสอร์ทที่ถือเป็นจุดหมายปลายทางของนักเดินทางที่แสวงหาประสบการณ์การพักผ่อนที่แตกต่าง ก็คือ จามส์เฮ้าส์ เกาะกูดเพราะจากการค้นหารีวิวในเว็บไซต์ ต่างพากันยกให้ จามส์เฮ้าส์นั้นอยู่ในลำดับต้นของทุกสถานบันรีวิวกันเลยครับ

จามส์เฮ้าส์ เกาะกูด เป็นรีสอร์ทสไตล์บูทีคระดับห้าดาว ที่แวดล้อมไปด้วยทัศนียภาพอันงดงามของธรรมชาติและความสมบูรณ์ของระบบนเวศ ภูเขาสีเขียวชอุ่ม และชายหาดทรายขาวละเอียด ที่ทอดตัวยาวตัดกับน้ำทะเลสีฟ้าใส นอกจากความงดงามของสถานที่ตั้งแล้ว จามส์เฮ้าส์ แห่งนี้ยังมีเรื่องราวที่น่าสนใจ ที่รอคอยให้นักเดินทางได้เดินทางมาค้นหาและสัมผัสมนต์สเน่ห์แห่งความเป็น “จามส์เฮ้าส์” แห่งนี้ ทำให้ จามส์เฮ้าส์ ไม่ได้เพียงเป็นแค่สถานที่พักผ่อนสำหรับนักท่องเที่ยวเท่านั้น แต่ยังเป็นสถานที่ที่จะให้นักเดินทางทุกท่านที่ได้เดินทางมาเยี่ยมเยียน ได้สัมผัสกับเรื่องราวอันทรงคุณค่าของ จามส์เฮ้าส์ที่เราจะได้สัมผัสไปพร้อมกันและมนต์เสน่ห์ที่กล่าวถึงก็คือชื่อของรีสอร์ท ซึ่งแท้จริงแล้ว “จาม” เป็นชื่อของชนเผ่าหนึ่งที่มีถิ่นกำเนิดอยู่ทางตอนใต้ของประเทศเวียดนาม ชนเผ่าจามมีชื่อเสียงในเรื่องของการทอผ้าใหมและการปลูกข้าว ซึ่งทำให้ “ใหม” และ “รวงข้าว” ถูกใช้เป็นแรงบันดาลใจหลักในสร้างรีสอร์ทแห่งนี้ ดังนั้น การออกแบบและตกแต่งของรีสอร์ทได้ถูกถ่ายทอดผ่านองค์ประกอบสองอย่างนี้เป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบโลโก้, การตั้งชื่อห้องอาหาร บาร์ หรือสปาตลอดจนการแทรกกลิ่นอายอารยธรรม “จาม” ในเกือบทุกๆ ส่วนของรีสอร์ท อาทิเช่น การออกแบบตกแต่งห้องพักที่มีประดับภาพศิลปะฝาผนังที่สร้างสรรค์ด้วยผ้าใหม, การออกแบบเครื่องแต่งกายของพนักงานที่ใช้ผ้าใหมเป็นวัสดุหลัก, เมนูอาหารและเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของข้าว ตลอดจนทรีตเมนต์สปาที่นำเอารังใหมทองคำมาเป็นส่วนหนึ่งในการปรนนิบัติผิว เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม นอกจาก จามส์เฮ้าส์ จะนำเอาเอกลักษณ์ของชนเผ่าจามมาเป็นส่วนหนึ่งของการออกแบบแล้ว จามส์เฮ้าส์ ก็ยังไม่ลืมที่จะนำความเป็นท้องถิ่นและความเป็นไทยมาผสมผสานอีกด้วย เช่น การออกแบบห้องพักแบบวิลล่าที่หลังคาถูกออกแบบให้มีลักษณะคล้ายหมวกงอบ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ประจำจังหวัดตราด การนำผลิตภัณฑ์สัญชาติไทยมาให้บริการ เช่น amenity ในห้องพักที่ใช้แบรนด์ THANN เป็นต้น

 

เกาะกูด EP.2


เกาะกูด มันกู๊ดมาก นะเธอ จิบอกให้

จากบทความที่แล้วผมได้เกริ่นไปเบื้องต้นแล้วว่าทริปนี้ของผมได้เดินทางโดยใช้เวลาสี่วันสามคืนก็เพราะว่าผมจะเผื่อเวลาเดินทางให้หนึ่งวันเต็มเต็มไปเลย โดยวันแรกนั้นผมได้เดินทางออกจากชลบุรีโดยรถทัวร์บริษัทเชิดชัยทัวร์ จุดขึ้นรถนั้นเลยโรงเรียนจั่นอนุสรณ์มาสักนิดครับ ค่าโดยสารอยู่ที่ราคาประมาณสองร้องห้าสิบกว่าบาท เห็นมะไม่แพงเลย ถ้าขึ้นเครื่องบินนี่คงหมดตูดแน่แน่เลย รถทัวร์ใช้เวลาเดินทางประมาณห้าชั่วโมงครับ จำได้ว่าผมเดินทางออกจากชลบุรีประมาณสิบเอ็ดโมงเห็นจะได้ เรื่องของเรื่องคืนช่วงเทศกาลรถจะเต็มเร็วมากถ้าไม่ไปซื้อล่วงหน้าไว้ก่อนนี่ไม่ได้ไปแน่ครับ วันนั้นอากาศร้อนแสบมาก แล้วรถก็แอร์ไม่เย็นแลย แต่ก็เข้าใจได้ด้วยสภาพอากาศ ในการเดินทางรถทัวร์ก็จะมีจุดจอดให้เข้าห้องน้ำบ้างครับประมาณสองครั้งเห็นจะได้ครั้งละประมาณสิบนาที ระหว่างทางก็นั่งนั่งนอนนอนไปครับ ได้แต่มองว่าเมื่อไรจะถึงเน้อ หลับไปสักพักก็ตื่นขึ้นมาครับประมาณเกือบห้าโมงเย็นเลย เมื่อถึงสถานีขนส่งจังหวัดตราด สิ่งแรกที่เราต้องทำคือจองตั๋วรถขากลับเลยครับ โดยเผื่อเวลาไว้ด้วยนะเดี่ยวจะหาว่าไม่บอก เผื่อเวลาขึ้นรถลงเรือไว้ด้วยสักชั่วโมงนึง เมื่อถึงบขส.ผมก็เปิดกูเกิ้ลแมปเลย เพราะผมจองที่พักไว้ที่โรงแรมตราดเซ็นเตอร์ โรงแรมนี้อยู่ไม่ไกล         จากบขส. เราสามารถเดินไปได้ครับ แต่ก็จะเหนื่อยเหนื่อยหน่อย ราคาก็อยู่ที่ประมาณห้าร้อยกว่าบาทครับไม่แพงมาก อันนี้ผมก็สอยราคาโปรมาจาก agoda เจ้าเก่าอีกตามเคย โรงแรมจัดว่าไม่ใหม่และไม่เก่าครับก็กลางกลางนะโดยประเมินจากสายตาภายนอก ไปถึงก็รีบเช็คอินเลยเพราะเหนื่อยมาก แต่เมื่อก้าวเท้าเข้ามาถึงนี่ต้องบอกว่าผิดคาดเลย เพราะโรงแรมนี่ค่อนข้างใหม่และสะอาดมากครับ นั่งตากแอร์ให้หายเหนื่อยสักพักก็เช็คอินเรียบร้อย พนักงานต้อนรับแต่งตัวชุดไทยก็น่ารักไปอีกแบบยิ้มแย้มแจ่มใส ทีนี้มาถึงในห้องกันบ้างครับ ภายในห้องนี่รู้สึกโอเคมากมากเลย เพราะว่าสะอาดมากครับ ในห้องก็จะมีเตียงนุ่มนุ่ม ทีวี ตู้เย็น ห้องน้ำพร้อมอุปกรณ์การอาบน้ำและเครื่องทำน้ำอุ่นด้วย เฟอร์นิเจอร์ภายในตกแต่งได้ลงตัวไม่น้อยไม่มากเกินไปสำหรับราคานี้ เตียงนอนสะอาดหมอนก็นิ่ม             แต่เสียอย่างนึงไฟในห้องค่อนข้างสลัวไปหน่อยเหมาะแก่การนอนมากเกินไปห้าห้าห้า จำได้ว่าที่นี่เข้าห้ามนำทุเรียนเข้ามานะครับ ถ้าใครมีอยู่ในมือก็จัดการให้เรียบร้อยไปก่อนน้า

เกาะกูด EP.1

เกาะกูด มันกู๊ดมาก นะเธอ จิบอกให้

เมื่อพูดถึงเกาะกูด หลายคนนี่ต้องแอบยิ้มที่มุมปากกันบ้างละครับ ก็ไม่ว่าใครที่เคยไปสัมผัสดินแดนที่เต็มไปด้วยความสุขแห่งนั้นมาแล้วต่างก็ต้องประทับใจกันเป็นธรรมดาชนิดที่ว่าอยากไปซ้ำอีกหลายหลายรอบเลยทีเดียว ผมก็เป็นหนึ่งในนั้นถ้ามีเวลาก็จะกลับไปอีกแน่นอน

เกาะกูด เป็นอีกหนึ่งเกาะที่ยังคงความสวยงามและความเป็นธรรมชาติไว้ได้อย่างดีเยี่ยม ใครที่ยังหาสถานที่เที่ยว หรือสถานที่ถ่ายรูปสวยๆ ขอบอกเลยว่าห้ามพลาดเด็ดขาด สำหรับเกาะกูดเป็นเกาะที่อยู่ในจังหวัดตราด อยู่ชายฝั่งทะเลทางภาคตะวันออกของประเทศไทย

จุดหมายปลายทางของเราคือเกาะกูดแต่การเดินทางหละจะไปกันยังไงเน้อ สำหรับการเดินทางไปเกาะกูดนั้นมีด้วยกันหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นบินตรงด้วยสายการบินบางกอกแอร์เวย์สซึ่งราคาก็จะอยู่ที่ประมาณหกพันถึงเก้าพัน ฟังราคาแล้วจิบอกว่าไม่ใช่แนวเลยห้าห้าห้า ถ้าไม่ไหวใครมีรถก็จับพวกมาลัยขับออกจากบ้านมาเลยครับ ถ้าเดินทางมาจากกรุงเทพก็จะใช้เวลาประมาณห้าชั่วโมงครับ ส่วนใครอยู่จังหวัดอื่นก็เปิดแอพกูเกิ้ลแมพโลดเลย ส่วนตัวผมนั้นในทริปนี้ผมเดินทางด้วยรถโดยสารประจำทางครับ โดยเดินทางจากชลบุรี ซึ่งรถก็จะมาจากท่ารถเอกมัยในกรุงเทพโน่น ต้องขอบอกว่าต้องเผื่อเวลาเดินทางไว้ก็จะดีนะครับเพราะการเดินทางไปเกาะกูดนั้นหินใช่เล่นเลย

สำหรับตัวผมนั้นทริปนี้ผมวางแผนสำหรับทริปนี้โดยใช้เวลาสี่วันสามคืน ถามว่าทำไมต้องสี่วันสามคืนเลยก็เพราะว่าผมเผื่อเวลาเดินทางไปหนึ่งวันเลยครับสำหรับการเดินทางไปตัวเมืองตราด แล้วก็จองโรงแรมให้เสร็จสัพไว้ก่อนเลย เคล็ดลับการจองโรงแรมยังไงให้ได้ถูกนี่ผมจะบอกให้ไม่ยากเลย คุณแค่วางแผนการเดินทางล่วงหน้าสักสองถึงสามเดือนห้าห้าห้า ตัวผมนั้นจองช่วงเดือนมกราคม แต่จะไปเที่ยวช่วงเดือนเมษายนช่วงสงกรานต์พอดี อย่าคิดว่ามาช่วงสงกรานต์แล้วจะแพงหูฉี่ขนาดนั้น ถ้าอยากได้ราคาสมน้ำสมเนื้อก็ต้องวางแผนสำหรับทริปยาวหน่อยนะครับ ผมนี่ได้ราคาโรงแรมค่อนข้างถูกมากกว่าจองช่วงกระชั้นชิดเลยครับ จำได้ว่าถ้าจองล่วงหน้าแล้วเว็บ agoda กำลังเล่นโปรนั้นผมได้ส่วนลดถึงหนึ่งพันห้าร้อยบาทเลยทีเดียวครับ เทคนิคการจองก็เข้าไปดูสถานที่นั้นบ่อยบ่อยครับ วันนึงเข้าสักสองถึงสามรอบในเวลาที่สลับกัน แล้วประมาณห้าวัน agoda จะเริ่มเสนอราคาที่ลดแล้วถูกกว่าหลายเว็บมากมาก มันจะมีช่วงเวลาแฟลชเซลนี่แหละ รีบสอยเลยครับ