ศาลพระตรีมูรติ

ศาลพระตรีมูรติ ถือได้ว่าเป็นสถานที่ขอพรในเรื่องความรักอันดับต้นๆ

เข้าสู่หน้าหนาวที่หนาวกว่าปีก่อนๆและยังจะใกล้เข้าสู่วาเลนไทน์เวียนมาอีก คิดแล้วท้อเหม็นเบื่อความรักเหลือเกิน หันไปทางไหนก็เจอคนมีคู่ แต่เดี๋ยวก่อนอย่าอิจฉาเพราะใครที่เป็นโสดปีนี้จะหายหนาวอย่างแน่นอน เพราะเราจะพาไปวัดที่ขึ้นชื่อว่าขอพรเรื่องความรักแล้วจะได้สุขสมหวังไม่นกแน่นอน  เอ้าโควิคก็กลัวแต่กลัวไม่มีคู่มากกว่านั้นเราไปขอพรจากสถานที่ ที่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯจะดีกว่า อย่าง ศาลพระตรีมูรติ ซึ่งถือได้ว่าเป็นสถานที่ขอพรในเรื่องความรักอันดับต้นๆที่ได้รับความศรัทธามีคนมาขอพรอย่างเนื่องแน่นๆ ที่แสดงให้เห็นว่ามีคนเป็นโสดเยอะนั้นเองเกี่ยวไหม ไปติดตามต่อได้ที่บทความ สถานที่ท่องเที่ยว

แต่สำหรับใครที่ยังไม่รู้มาก่อนว่าพระตรีมูรติมีความเป็นมาอย่างไร เราจะมาบอกเล่าถึงความศักดิ์สิทธิ์ของท่านให้ฟัง โดยพระตรีมูรติซึ่งหมายถึงว่ารูปสามคือมีพลังของเทพเจ้า 3 รูปในองค์เดียว คือเทพเจ้าแห่งการสร้างโลก(พระพรหม) รักษาโรค(พระวิษณุหรือพระนารายณ์) และทำลายโลก(พระศิวะ) ถือได้ว่าเป็นการแสดงพลังอันยิ่งใหญ่ของพระผู้เป็นเจ้าในทุกสรรพสิ่ง โดยคนส่วนใหญ่เชื่อกันว่าพระตรีมูรติหมายถึงความสมบูรณ์ในชีวิตความรัก และการงาน สำหรับประวัติความเป็นมาของพระตรีมูรติในประเทศไทย 

คือในช่วงสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ท่านได้แสดงปาฏิหาริย์ในช่วงเวลาที่มีการทิ้งระเบิดลงใน กรุงเทพฯ โดยระเบิดนั้นด้านไม่ทำงานเมื่อตกมาถึงบริเวณที่ท่านอยู่ จึงทำให้เป็นการบอกเล่าถึงความศักดิ์สิทธิ์ของท่าน แล้วเกี่ยวกับความรักยังไงทุกคนอาจจะสงสัย ก็ไม่ได้มีหลักฐานอะไรที่ปรากฏอย่างแน่ชัด ถึงเรื่องว่าเป็นเทพเจ้าแห่งความรักของพระตรีมูรติ แต่มีธรรมเนียมปฏิบัติและความเชื่อว่าทุกคืนวันพฤหัสบดี 21:30 น ใครที่อยากจะสมหวังในความรักจะมาอธิษฐาน โดยเชื่อว่าเป็นเวลาที่มหาเทพจะเสด็จลงมาจากสวรรค์ เพื่อรับคำอธิษฐานนั้นเอง และในปัจจุบันคนไทยนับถือพระตรีมูรติในฐานะเทพเจ้าแห่งความรัก

โดยมี ศาลพระตรีมูรติ ตั้งอยู่ที่เซ็นทรัลเวิลด์ เป็นที่เคารพบูชากราบไหว้โดยเฉพาะหนุ่มสาว

โดยมีการเตรียมดอกกุหลาบแดง 9 ดอกพวงมาลัยดอกกุหลาบ 1 พวงตามความเชื่อว่าดอกกุหลาบแดงเป็นสัญลักษณ์แห่งความรักเป็นความมงคล และธูปสีแดงจำนวน 9 ดอก แต่สำหรับคนโสดให้เตรียมเทียนสีแดง 1 เล่ม เพื่อขอพรแล้วจะไม่โดดเดี่ยวอีกต่อไปจะทำให้พบกับเนื้อคู่ในเร็ววัน ส่วนคนที่มีคู่แล้วก็ใช้เทียน 1 คู่ประกบกันให้แน่นเหมือนคู่รักที่จะไม่แยกจากกัน และผลไม้อย่างมะพร้าวหรืออ้อย นมสดของหวานชนิดใดก็ได้ แต่ห้ามถวายของคาวเป็นเด็ดขาด 

ศาลพระตรีมูรติ

สำหรับคนโสดคนไหนที่จะอยากลงจากคานลองทำหลายวิธีก็ยังไม่ได้ผล ก็ลองหันไปพึ่งศักดิ์สิทธิ์อย่างเทพเจ้าแห่งความรัก พระตรีมูรติ ดูการสักครั้งก็ไม่เสียหาย เพราะมีคนแอบกระซิบว่าพี่ก้อยรัชวินก็เคยมาขอพรเรื่องความรักที่นี้แต่จะเกี่ยวกับการได้แต่งงานกับพี่ตูนมั่ยก็ไม่ทราบ เพราะว่าเทพเจ้าอาจจะดลบันดาลให้คนได้พบกัน แต่คนที่จะสานต่อความสัมพันธ์ให้ออกมาในรูปแบบไหนก็ขึ้นอยู่กับคนสองคนนั้นเองจบจร้าแยกย้าย

ในช่วงสถานการณ์แบบนี้อาจจะออกไปท่องเที่ยวไม่สะดวกเท่าไหร่ ซึ่งอยู่บ้านนาน ๆ อาจจะทำให้เหงาและเครียดแอดจึงมีเว็บไซต์เกมดี ๆ อย่าง เกมสล็อต ค่าย pg มาให้เล่นกันค่ะ

วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว

วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว กับเอกลักษณ์เฉพาะตัวของที่ทำให้เราต้องไปเยือนสักครั้ง

วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว ชื่อนี้อาจคุ้นหูเราบ้างไม่มากก็น้อย แต่หากใครที่เล่นสื่อโซเชียลมีเดียแล้วเจอรูปเพื่อน หรือคนรู้จักที่ไปท่องเที่ยวเขาค้อ กระทั่งถ่ายรูปติดกับพระพุทธรูปซ้อนกัน 5 องค์ ย่อมร้องอ้อทันที ซึ่งในวันนี้เราจะพาไปดูถึงความพิเศษอันเป็นเอกลักษณ์กันว่ามีอะไรบ้างที่ทำให้ต้องไปเยือนวัดแห่งนี้สักครั้งกับบทความ สถานที่ท่องเที่ยว

          วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว ตั้งอยู่ที่ตำบลแคมป์สน อำเภอเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์ ซึ่งบรรยากาศโดยรอบจะโอบล้อมไปด้วยทิวเขาน้อยใหญ่สลับกันไป อีกทั้งเมื่อถึงช่วงฤดูฝนและหนาวแล้วมีหมอกปกคลุม จะนับว่าเป็นภาพที่สวยงามอย่างยิ่ง จึงทำให้มีความคิดริเริ่มที่จะใช้เป็นสถานที่สำหรับการปฏิบัติธรรม แต่ว่าตอนนี้อาจจะไม่สงบเสียแล้ว เพราะมีผู้คนหลั่งไหลไปเที่ยวจำนวนมากนั่นเอง

          มหาวิหารพระพุทธเจ้า 5 องค์ นี่คือสถานที่แรกและเป็นดั่งสัญลักษณ์ของที่นี่ เพราะไม่มีอาคารและวัดใดในไทยที่มีลักษณะแบบนี้ โดยอาคารวิหารนี้มีแนวคิดมาจากพุทธประวัติที่กล่าวว่าพระพุทธเจ้ามีทั้งหมด 5 ชาติ ซึ่งจนถึงขณะนี้เกิดไปแล้ว 4 ชาติ ขณะที่อีกชาติยังไม่มีทางรู้ได้ว่าเมื่อไร ส่วนด้านในอาคารเป็นห้องพักของผู้มาเข้าปฏิบัติธรรม และเป็นสถานที่สำหรับสวดมนต์ ฟังธรรม และอื่นๆ

เจดีย์ วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว เป็นอาคารที่ถูกสร้างขึ้นมาก่อนมหาวิหารเมื่อสักครู่

โดยความพิเศษนั้นมีการ  บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ซึ่งได้รับความกรุณาจากสมเด็จพระญาณสังวรสมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปริณายก ที่ได้ประทานมอบให้ ส่วนรูปลักษณ์ของเจดีย์จะมีความแปลกตาไปจากเจดีย์ตามวัดทั่วไป แต่ถ้ามองให้ดีจะพบว่ามีต้นแบบมาจากศาสนสถานทางตอนใต้ของอินเดียในเชิงโครงสร้าง แต่ได้มีการประยุกต์ชั้นที่ลดหลั่นกันลงมาให้ใหญ่ขึ้น อีกทั้งยังทำหน้าต่างให้มีขนาดใหญ่จนสามารถใช้สอยได้ (อินเดียจะทำเป็นหน้าลอกเล็กๆ เพื่อให้เกิดความสวยงามเท่านั้น) ส่วนการตกแต่งจะเน้นการใช้สีสันเข้ามาเพื่อให้เกิดความสวยงามและสะดุดตาผู้พบเห็น ซึ่งเป็นศิลปะแบบประยุกต์แนวใหม่

วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว

          ทั้งหมดทั้งมวล จึงพอจะสรุปได้ว่าเพราะการใช้เทคนิคและการประยุกต์ ทำให้สิ่งก่อสร้างภายใต้วัดพระธาตุผาซ่อนแก้วแห่งนี้มีความแปลกตาผู้พบเห็น ซึ่งแน่นอนว่าทำให้ผู้พบเห็นสะดุดตาและบอกปากต่อปาก เพื่อมาชมความงดงามยังวัดแห่งนี้ แต่ในอีกมุมนี้คือการฉีกแนวจากสถาปัตยกรรมท้องถิ่น จนอาจทำให้ผู้พบเห็นมองเป็นศิลปะ มากกว่าจะเป็นศาสนสถานอันศักดิ์สิทธิ์

กลับมาอีกครั้งกับโรคระบาดโควิด 19 ซึ่งอาจทำให้หลายคนไม่ได้ออกไปท่องเที่ยวที่ไหน งั้นวันนี้ไปลองเล่นเกมที่สนุกสนานกับแอดที่เว็บไซต์ สล็อตฟาโรห์ รับรองได้ว่าจะทำให้ทุกคนที่บ้านแบบไม่น่าเบื่ออีกต่อไป

จังหวัดเชียงใหม่

จังหวัดเชียงใหม่ เที่ยวกราบไหว้พระมหาธาตุนภพลภูมิสิริ และพระมหาธาตุนภเมทนีดล

จังหวัดเชียงใหม่ นอกจากจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติแล้ว ยังมีสถานที่ท่องเที่ยงเชิงวัฒนธรรมให้กับนักท่องเที่ยวได้เที่ยวชมความสวยงาม และได้มากราบไหว้เพื่อความเป็นสิริมงคลกับการใช้ชีวิต ในวันนี้เราได้พาเพื่อน ๆ นักท่องเที่ยว นักเดินทางทั้งหลาย เดินทางมาที่จังหวัดเชียงใหม่เพื่อกราบไหว้สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ด้วยกันสองสถานที่ คือ พระมหาธาตุนภพลภูมิสิริ และพระมหาธาตุนภเมทนีดล ณ ดอยอินทนนท์ จังหวัดเชียงใหม่

จังหวัดเชียงใหม่

            ประวัติความเป็นมาของพระมหาธาตุนภพลภูมิสิริ และพระมหาธาตุนภเมทนีดล ที่ตั้งอยู่บนดอยอินทนนท์จังหวัดเชียงใหม่คือ เป็นการสร้างเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลให้กับรัชกาลที่ 9 และสมเด็จพระราชินีนาถ ดำเนินการก่อสร้างโดยประชาชนชาวไทยและกองทัพอากาศ ซึ่งดอยอินทนนท์เป็นยอดดอยที่มีความสูงที่สุดในประเทศไทย จึงเป็นทำเลที่เหมาะสมสำหรับตั้งพระมหาธาตุเจดีทั้งที่มีความสวยสง่าเป็นอย่างมาก

จังหวัดเชียงใหม่

            พระมหาธาตุนภพลภูมิสิริ

                        พระมหาธาตุนภพลภูมิสิริ ตั้งอยู่ที่ยอดดอยอินทนนท์จังหวัดเชียงใหม่ลักษณะของฐานเจดีย์จะมีลักษณะเป็นทรงสิบสองเหลี่ยม  โทนสีไปในทางสีชมพูอมม่วงและมีการประดับตกแต่งเพิ่มเติมด้วยโมเสกแก้วซึ่งทำให้เจดีย์มีความสวยงามระยิบระยับ และอีกหนึ่งความโดดเด่นก็คือ ส่วนของยอดเจดีย์ที่มีลักษณะเป็นกลีบดอกบัวล้อมรอบปลายเจดีย์เอาไว้ลักษณะเป็นดอกบัวตูมที่มีสีเหลืองทอง เนื่องจากมีการประดับตกแต่งด้วยโมเสกแก้วสีทอง ภายในของเจดีย์เป็นสถานที่ที่ประดิษฐานของพระบรมสารีริกธาตุ ซึ่งมีความสวยงามเป็นอย่างมาก

จังหวัดเชียงใหม่

พระมหาธาตุนภเมทนีดล

                        อีกหนึ่งพระมหาธาตุที่ตั้งอยู่บนยอดดอยอินทนนท์ คู่กับพระมหาธาตุนภพลภูมิสิริที่ทั้งสองเจดีย์มีความสวยงามที่ไม่แพ้กัน  แต่พระมหาธาตุนภเมทนีดล คือเจดีย์แรกที่ตั้งอยู่บนจุดสูงสุดของประเทศไทย ลักษณะโดดเด่นของพระมหาธาตุนภเมทนีดล คือ การที่มีฐานที่มีลักษณะเป็นระฆังแปดเหลี่ยมอยู่รอบฐาน ซึ่งลวดลายที่ประดับตกแต่งมีอยู่ด้วยกันทั้งหมดสามลวดลาย จึงเป็นการเปรียบเทียบเสมือนกับพระบารมีของพระพุทธเจ้า  ซึ่งภายในองค์พระเจดีย์ได้มีพระพุทธรูปปางประทานพรตั้งประดิษฐานอยู่ภายในนั้น

            เมื่อนักท่องเที่ยวได้มีโอกาสมาท่องเที่ยวที่จังหวัดเชียงใหม่หรือได้แวะมาที่ดอยอินทนนท์ อย่าลืมแวะมากราบไหว้พระมหาธาตุนภพลภูมิสิริ และพระมหาธาตุนภเมทนีดล ที่ตั้งโดดเด่นอยู่บนยอดดอยอินทนนท์ จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อได้ขึ้นมากราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ของสถานที่แห่งนี้แล้ว ยังได้เก็บภาพความประทับใจจากบรรยากาศรอบ ๆ ที่ให้ทั้งความสวยงามได้ชมวิวเต็ม ๆ ตา 360 องศาจากการอยู่บนยอดดอย และยังได้สัมผัสกับบรรยากาศที่มีความหนาวเย็น อากาศดีดีและความสวยงามของสถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้คงอยากให้นักท่องเที่ยวทุกท่านได้มาสัมผัสกันนะคะ

วัดตาลเจ็ดยอด

วัดตาลเจ็ดยอด วัดประดิษฐานหลวงพ่อโตที่มีขนาดใหญ่ที่สุด

วันนี้เราจะพาทุกคนไปท่องเที่ยวไหว้พระขอพรกันที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์กันนะ ซึ่งจังหวัดนี้ก็มีสถานที่ศักดิ์สิทธ์อยู่หลายแห่งกันเลยทีเดียว แต่ในวันนี้จะพาไปรู้จักกับ วัดตาลเจ็ดยอด อยู่ที่ตำบลศาลาลัย อำเภอสามร้อยยอดนั่นเอง โดยที่นี่จะเป็นที่ประดิษฐานของหลวงพ่อโต พรหมรังสี ซึ่งว่ากันว่ามีขนาดใหญ่ที่สุดแล้วในตอนนี้ ซึ่งความกว้าง 11 เมตร และสูงถึง 18 เมตรเลยล่ะทุกคน ใหญ่ใช่มั้ยล่ะ

               ทุกคนคงสงสัยใช่มั้ยล่ะว่าทำไมถึงชื่อว่า วัดตาลเจ็ดยอด ซึ่งจะบอกว่าเมื่อก่อนสถานที่แห่งนี้เคยมีต้นตาล 7 ต้น แต่ไม่มีให้เห็นแล้วในปัจจุบัน เพราะถูกตัดออกไปเพื่อนำพื้นที่ไปสร้างทางรถไฟเมื่อปี 2500 แต่ยังคงใช้ชื่อวัดนี้ตลอดมาถึงปัจจุบัน และสำหระบใครที่จะมาเที่ยวที่นี่ก็สามารถเดินทางมาตามถนนเพชรเกษมจนถึงกิโลเมตรที่ 273-274 ก็สามารถเลี้ยวซ้ายไปตามป้ายบอกทางก็จะเจอกับวัดตาลเจ็ดยอดที่ตั้งอยู่ท่ามกลางทุ่งนาสีเขียวขจีและมีหลางพ่อโต พรหมรังสี ตั้งเด่นเป็นสง่าสวยงามมากๆ

               หากว่านักท่องเที่ยวคนใดวางแผนที่จะมากราบไหว้บูชาหลวงพ่อโตที่วัดตาลเจ็ดยอดก็สามารถเดินทางมาเที่ยวได้ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00-16.30 น. แต่ขอแนะนำให้ทุกคนมากราบไหว้กันตอนช่วงเช้านะ เพราะบริเวณที่กราบไหว้ค่อนข้างจะร้อนมากๆ ซึ่งที่นี่ไม่ต้องเสียค่าเข้าแต่อย่างใด เพียวทุกคนมีใจศรัทธาก็สามารถเข้ามาที่แห่งนี้ได้ตามความสะดวกเลย

วัดตาลเจ็ดยอด

               สำหรับใครที่มาวัดตาลเจ็ดยอดแล้ว ก็สามารถจะแวะเที่ยวสถานที่ใกล้ๆ ได้อีกหลายแห่งเลยนะ ไม่ว่าจะเป็นบึงบัวสามร้อยยอด ชายหาดปราณบุรี ซึ่งถ้าเดินทางมารถยนต์ส่วนตัวจะสะดวกมาก เพราะสามารถพากันไปเที่ยวสถานที่อีกมากมายของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากวัดตาลเจ็ดยอด และนี่ก็เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่อยากแนะนำให้มาชมความสวยงามกันนะ รับรองว่าวันหยุดกับการได้มาที่นี่จะไม่ผิดหวังแน่นอน