จังหวัดลำพูน

จังหวัดลำพูน มนต์เสน่ห์แห่งศิลปวัฒนธรรม ที่มีเอกลักษณ์ยาวนานกว่า

ถ้ากล่าวถึง จังหวัดลำพูน อาจจะมีใครหลายคนที่ยังไม่ค่อยรู้จัก เนื่องจากอาจเป็นแค่เมืองผ่านเท่านั้น แต่แท้ที่จริงแล้วลำพูนมีประวัติความเป็นมาที่ยาวนานกว่า 1,300 ปี มีกลิ่นอายและมนต์เสน่ห์ทางวัฒนธรรมสมัย นครศรีหริภุญไชย เมืองที่เคยรุ่งเรืองในยุคอดีตกาล และจังหวัดลำพูนในปัจจุบันนั้น เป็นเมืองที่สงบ ไม่วุ่นวาย และมีบรรยากาศแบบคลาสสิค ซึ่งเป็นข้อดีของคนที่อยากมา ท่องเที่ยว ที่นี่ สามารถใช้ชีวิตแบบผ่อนคลายได้อย่างเต็มที่ ยังมีวัฒนธรรมเก่าแก่แบบล้านนาที่คุณสามารถสัมผัสได้ทันทีที่มาถึง และชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนก็อยู่อย่างเรียบง่าย คงความเป็นวิถีท้องถิ่นแบบชาวบ้านดั้งเดิมจนถึงปัจจุบันนี้  ใน จังหวัดลำพูน ยังมีวัดที่เก่าแก่ งดงามด้วยคุณค่าและงดงามด้วยสถาปัตยกรรมแบบโบราณที่มีอายุมากกว่าพันปี ให้ทุกคนได้เข้ามาสัมผัส และมีคำกล่าวไว้ว่า เที่ยวลำพูน 1 คืนอายุยืน 1 ปี  เพราะการมาพักที่ลำพูนนั้นจะทำให้วิถีชีวิตคุณเปลี่ยนไป คุณจะได้อยู่กับธรรมชาติและศิลปวัฒนธรรมที่งดงามรวมถึงสถาปัตยกรรมที่มีความวิจิตรบรรจง จะทำให้คุณตาตึงในมนต์เสน่ห์แห่งอารยธรรม ที่คุณไม่มีวันลืม 

จังหวัดลำพูน มนต์เสน่ห์แห่งศิลปวัฒนธรรม

จังหวัดลำพูน ยังมีแหล่ง ท่องเที่ยว ตามธรรมชาติอีกหลายแห่ง

จังหวัดลำพูนนั้นได้ขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองแห่งศิลปะและวัฒนธรรมโบราณ สถานที่ท่องเที่ยว นอกจากวัดวาอารามในสมัยอดีตและ โบราณสถาน ต่าง ๆ ที่เก่าแก่แล้ว ยังมีแหล่ง ท่องเที่ยว ตามธรรมชาติที่สวยงาม ที่ซ่อนตัวอยู่อีกหลายแห่ง อย่างเช่น น้ำตกก้อหลวงที่อำเภอลี้ เป็นน้ำตกที่มีความสวยงามจากน้ำที่ไหลผ่านหน้าผาชั้นหินปูนที่มีความสูงลดหลั่นกันลงมาอย่างสวยงามท่ามกลางหินงอก หินย้อย ถึง 7 ชั้น และจุดเด่นที่สุดของน้ำตกแห่งนี้ก็คือสีของน้ำจะเป็นสีเขียวมรกตสวยงามมากและเมื่อแสงแดดส่องมากระทบกับผิวน้ำก็จะสะท้อนสีออกมายิ่งสวยงามมากกว่าเดิมอีกหลายเท่า จึงเป็นแหล่งน้ำตกที่ตราตรึงใจผู้ที่มาเที่ยวทุกคน ได้เป็นอย่างดี แก่งก้อ เป็นสถานที่ ท่องเที่ยว ทางธรรมชาติอีกแห่งหนึ่งที่มีชื่อเสียงเป็นอย่างมาก เป็นทะเลสาบขนาดใหญ่ ที่คุณจะได้พบกับธรรมชาติที่สมบูรณ์ สายน้ำที่ใสสะอาด และถูกห้อมล้อมด้วยขุนเขา และมีอากาศที่ดี บริสุทธิ์มาก และด้วยความสวยงามจึงได้ ขนานนามว่าสวิตเซอร์แลนด์แห่งเมืองไทย 

โบราณสถาน จังหวัดลำพูน

ถึงแม้ว่าจังหวัดลำพูนจะเป็นจังหวัดทางผ่านและเป็นเมืองรองก็ตาม มีวัดวาอารามที่สวยงามและมนต์เสน่ห์แห่งศิลปกรรมเมื่อยุคอดีตอยู่มากมายหลายแห่ง ซึ่งแต่ละแห่งก็จะมีความสวยงามในแบบฉบับของตัวเอง รวมถึงแหล่ง ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงาม มีธรรมชาติที่สมบูรณ์ รวมถึงเป็นเมืองที่สงบ ไม่รีบเร่ง คงความวิถีแบบดั้งเดิม ซึ่งเหมาะสำหรับการมาท่องเที่ยวและพักผ่อนอย่างแท้จริง

Related Posts

วัดไชยวัฒนาราม

วัดไชยวัฒนาราม ซึ่งเป็นวัดเก่าแก่ของอยุธยา เป็นโบราณสถานที่อยู่ในอุทยานประวัติศาสตร์อยุธยา

แพลนเที่ยวสำหรับทริปอยุธยา ขอพาทุกคนไปกันที่ วัดไชยวัฒนาราม ซึ่งเป็นวัดเก่าแก่ของอยุธยา เป็นโบราณสถานที่อยู่ในอุทยานประวัติศาสตร์อยุธยา พร้อมกับได้ขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานของชาติในปีพ.ศ. 2478 และต่อมาก็ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกของโลกในปีพ.ศ. 2535 ภายในวัดมีหลายสิ่งน่าสนใจ ให้ทุกคนได้ไปท่องเที่ยวชมกัน

ประวัติของวัดไชยวัฒนาราม

วัดนี้ถูกสร้างขึ้นในปีพ.ศ. 2173 โดยพระเจ้าปราสาททอง ก่อนหน้านี้บริเวณพื้นที่ของ วัดไชยวัฒนาราม เคยเป็นที่อยู่ของพระมารดา ซึ่งได้สิ้นพระชนม์ก่อนที่พระเจ้าปราสาททองจะได้เสวยราชสมบัติเป็นกษัตริย์ เมื่อพระเจ้าปราสาททองได้เสวยราชสมบัติ ก็ทรงโปรดเกล้าให้สร้างเพื่ออุทิศพระราชกุศลถวายพระมารดา

วัดไชยวัฒนาราม

และวัดไชยวัฒนารามก็เคยถูกใช้ในพิธีบำเพ็ญพระราชกุศลของพระมหากษัตริย์ของอยุธยาที่สืบต่อมาหลังจากนั้นทุกพระองค์ จึงได้รับการบูรณะเรื่อยมา ซึ่งในอีกเรื่องรางนึงของวัด ก็คือชื่อของวัด ซึ่งเดิมทีมีชื่อว่า วัดชัยวัฒนาราม ซึ่งข้อสันนิษฐานว่า วัดนี้ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์แห่งชัยชนะเหนือกรุงพนมเปญ จึงเปลี่ยนชื่อวัดเป็น ไชยวัฒนาราม ที่คำว่า ไชย หมายถึง ความยิ่งใหญ่และชัยชนะ จึงทำให้สิ่งก่อสร้างของวัดนี้มีลักษณะเหมือนขอมอยู่ส่วนหนึ่ง

สิ่งน่าสนใจของวัดไชยวัฒนาราม

  • ปรางค์ศรีรัตนมหาธาตุ

เป็นปรางค์ประธาน เป็นที่ตำลองจากนครวัด โดยมีลักษณะเป็นทรงจัตุรมุข บนฐานสี่เหลี่ยมจัตุรัส มีมุขยื่นออกมาทั้ง 4 ด้าน ซึ่งมีปรางค์ประจำทิศอยู่ทั้ง 4 ด้านเช่นเดียวกัน รวมถึงทุกด้านก็มีทางขึ้นสู่มุมของมุข ส่วนยอดของพระปรางค์ มีลักษณะเป็นรัดประคดซ้อน 7 ชั้น ด้านบนสุดเป็นทรงที่เรียกว่า ดอกบัวตูม ซึ่งมีความคล้ายกับปรางค์ในสมัยอยุธยาตอนต้น

วัดไชยวัฒนาราม
  • ปรางค์ประธาน

เป็นปรางค์องค์เล็กที่รายล้อมปรางค์ประธาน จำนวน 4 องค์ ลักษณะเหมือนกับปรางค์ประธาน แต่เล็กกว่า

  • พระเมรุ

มีอยู่ 8 องค์ เชื่อมต่อกับระเบียงคต ลักษณะอาคารยอดแหลม ส่วนที่อยู่บริเวณมุมเรียกว่า เมรุทิศ และองค์บริเวณระหว่างกลางเมรุทิศ คือ เมรุราย

  • ระเบียงคต

เป็นอีกหนึ่งส่วนที่ได้รับความนิยมกันมาถ่ายรูป ระเบียงคตจะเชื่อมต่อกับเมรุทั้ง 4 ทิศ ซึ่งบริเวณระเบียงคตจะประดิษฐานพระพุทธรูปปางมารวิชัย ที่มีมาแต่โบราณกว่า 100 องค์ ด้านนอกเป็นปูนส่วนข้างในทำจากไม้ แต่ในปัจจุบันเหลือองค์พระที่มีเศียรอยู่ 2 องค์ ส่วนอื่นๆ ได้ถูกตัดออกไปแล้ว