รถมอเตอร์ไซค์

รถมอเตอร์ไซค์ ขนาดเล็กสามารถขับขี่ไปท่องเที่ยวในกรุงเทพได้ไหม

การเดินทางเข้า กทม. สามารถทำได้หลายวิธี ซึ่งวิธียอดนิยมมากที่สุด คือการขับรถยนต์เข้าไป หรือถ้าเอาสะดวกสบายก็คือการโดยสารรถตู้สาธารณะและนั่งรถไฟ แต่ถ้าจะขับ รถมอเตอร์ไซค์ เข้าไปล่ะได้หรือไม่ ? แน่นอนว่าถ้าว่าเป็นรถบิ๊กไบค์ที่มีเครื่องยนต์ขนาดใหญ่ ย่อมขับบนถนนหมายเลข 32 หรือ 1 ได้แบบสบายๆ แต่ถ้าเป็น รถมอเตอร์ไซค์ ที่เครื่องยนต์เล็กลงมาอย่าง 125 และ 110 ซีซี คงจะอันตรายพอสมควร  ทำให้วันนี้จะมาแนะนำเส้นทางที่เหมาะสมกับรถมอเตอร์ไซค์ขนาดเล็ก ที่รับรองได้ว่าปลอดภัยหายห่วง สถานที่ท่องเที่ยว สำหรับเส้นทางที่จะรีวิวต่อไปนี้ เหมาะสมกับผู้ที่อยู่ในจังหวัดอ่างทอง ลพบุรี สระบุรี และอยุธยา โดยอย่างแรกสำหรับผู้ที่อยู่ในพื้นที่ อ่างทอง ลพบุรีและสระบุรี จะต้องขับรถมอเตอร์ไซค์มายังถนนสายในของอำเภอบางปะอิน หรือถ้าดูจาก Google map จะขึ้นว่าถนนหมายเลข 3309 จากนั้นขับต่อไปอีกราว 1-2 กิโลเมตร ให้สังเกตสะพานข้ามคลองที่เขียนว่าคลองเปรมประชากร ก็ให้เลี้ยวซ้ายได้เลย ซึ่งนั่นคือถนนหมายเลข 5042 หรือที่ชาวบ้านเรียกว่าถนนเลียบคลองเปรม โดยที่เส้นทางจะมีขรุขระบ้าง รวมถึงคอสะพานที่ยกระดับสูงจากพื้นถนนเป็นช่วงๆ จากนั้นขับตรงอย่างเดียวไม่เกิน 1 ชม. ก็จะไปตัดกับถนนหมายเลข …

ขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์

ขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ให้ชีวิตดีขึ้นกันที่วัดป่าสว่างธรรมเป็นวัดที่สวยงาม

     สถานที่ไหว้พระขอพรรวมถึง ขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ในประเทศไทยมีมากมายแจกแจงไม่หมด  แต่หนึ่งในนั้นต้องมีวัดป่าสว่างธรรมติดโผมาด้วยอย่างแน่นอน  เนื่องจากเป็นวัดบ้านเกิดของหมอลำชื่อดังอย่างคุณศิริพร  อำไพพงษ์  ผู้เป็นโต้โผใหญ่ในการสร้าง  เป็นอีกวัดที่คนรักตัวเลขต้องไปตาม…  และยังเป็นวัดที่สวยงาม  เหมาะกับสายแชะที่ชอบถ่ายรูปอีกด้วย…      รายละเอียดที่น่าสนใจของวัดป่าสว่างธรรม : หรือที่ชาวบ้านส่วนใหญ่เรียกขานกันว่าวัดศิริพร  ซึ่งต้องบอกเลยว่าวัดนี้ไม่ธรรมดาเนื่องจากเป็นวัดที่มีความเกี่ยวพันกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์อย่างพญานาค  (เจ้าปู่ศรีสุทโธและแม่ย่าศรีปทุมมา)  ซึ่งเป็นสัตว์ในตำนานที่อยู่คู่กับศาสนาพุทธมาอย่างยาวนาน  นอกจากนี้ยังเป็นวัดสร้างใหม่กลางน้ำที่มีบรรยากาศร่มรื่นมากด้วย      เคล็ดลับในการขอพรให้สมปรารถนา :  การหมั่นทำความดีเสริมวาสนาบารมีตนเอง  และหากได้ในสิ่งที่ขอแล้วก็ต้องมีสัจจะ  ทำตามที่กล่าวไว้ทุกประการครับ ขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และสิ่งที่น่าสนใจมากมายภายในวัดป่าสว่างธรรม –  พระพุทธรูปปางนาคปรกซึ่งเป็นพระประธานองค์ใหญ่ที่ประดิษฐานอยู่กลางหนองน้ำ  รายล้อมด้วยพญานาคขนาดใหญ่ที่พันเลื้อยจรดริมน้ำ  มีความวิจิตรงดงามจนต้องตะลึง  อีกทั้งใครที่ได้พบเห็นยังพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าคล้ายทางลงสู่วังบาดาล… –  การ ขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ กับรูปปั้นของเจ้าปู่ศรีสุทโธและแม่ย่าศรีปทุมมา  เชื่อกันว่าดีเด็ดเรื่องโชคลาภครับ –  ศาลาทำบุญให้ได้ทำบุญกันตามอัธยาศัย –  ที่นี่เขามีโรงทานด้วย  ใครไปทำบุญแล้วหิวจะแวะไปก็ได้  อิ่มบุญแล้วยังได้อิ่มท้องอีกต่างหาก –  การทำบุญให้อาหารปลาน่ารักๆ ริมน้ำ –  การซื้อลอตเตอรี่บริเวณวัดติดไม้ติดมือกลับบ้าน  ถือเป็นการกระจายรายได้สู่ชุมชนแล้วยังอาจมีโชคด้วย      พิกัดวัดป่าสว่างธรรม : ม. ดอนกลอย   ต. …

สงครามโลกครั้งที่ 2

สงครามโลกครั้งที่ 2 กับสถานีรถไฟแก่งคอยที่ควรไปเที่ยว

ย้อนกลับไปในช่วง สงครามโลกครั้งที่ 2 จักรวรรดิญี่ปุ่นได้ส่งทัพบุกโจมตีประเทศต่างๆเพื่อแสวงหาทรัพยากรและต่อสู้กับฝ่ายสัมพันธมิตรแดนตะวันตก ด้วยความที่ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ประเทศไทยนั้นเมื่อดูแล้วไม่อาจจะต้านทานในอำนาจของกองทัพจักรวรรดิญี่ปุ่นได้ เพราะอาจจะทำให้ทางทหารและประชาชนเสียเลือดเสียเนื้อ จึงจำเป็นต้องประกาศเป็นพันธมิตรกับจักรวรรดิญี่ปุ่น และยินยอมให้ทางญี่ปุ่นใช้เป็นทางผ่านเพื่อบุกโจมตีประเทศอื่นต่อไป ด้วยเหตุนี้เอง จึงทำให้ในช่วงสงครามโลกครั้งที่2ญี่ปุ่นจึงสร้างค่ายทหารรวมทั้งจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญมากมายเกิดขึ้นภายในประเทศไทยของเรา ส่วนหนึ่งในยุทธศาสตร์ที่สำคัญในช่วงสงครามโลกครั้งที่2ในประเทศไทยนั่นก็คือชุมทางรถไฟแก่งคอย  ซึ่งตั้งอยู่ในอำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี ซึ่งสามารถสลับรางรถไฟต่อไปได้ทั้งฝั่งจังหวัดลพบุรี ไปที่จังหวัดชัยภูมิ และเข้าภาคอีสานมุ่งหน้าไปทางจังหวัดนครราชสีมา เพื่อมุ่งตรงไปยังเขตชายแดนต่างๆ อันเป็นจุดมุ่งหมายการเดินทางของกองทัพจักรวรรดิญี่ปุ่น และนอกจากนี้มันยังเป็นจุดที่จะใช้ขนถ่ายสินค้าของทางจักรวรรดิญี่ปุ่นผ่านทางแม่น้ำป่าสักได้อีกด้วย ในช่วง สงครามโลกครั้งที่2ประมาณปี พ.ศ. 2482 ถึงปี พ.ศ. 2488 และแน่นอนด้วยความที่ชุมทางรถไฟแก่งคอยเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญในการขนถ่ายบำรุงกำลังของจักรวรรดิญี่ปุ่น มันจึงทำให้บริเวณรอบสถานีรถไฟกลายเป็นสถานที่ที่คึกคัก เจริญรุ่งเรืองซึ่งสามารถมองหลักฐานที่มีมาจนถึงในปัจจุบัน โดยมันก็ตกเป็นเป้าของฝ่ายสัมพันธมิตรในการทิ้งระเบิดเพื่อเข้าทำลายจุดยุทธศาสตร์แห่งนี้ด้วยเช่นเดียวกัน ซึ่งในช่วงสงครามโลกครั้งที่2เมื่อไหร่ก็ตามที่เครื่องบินจากฝ่ายสัมพันธมิตรได้บินลงมาโปรยระเบิดใส่บริเวณชุมทางแก่งคอย ชาวบ้านชาวเมืองที่อยู่ในอำเภอแก่งคอยก็ทำได้เพียงวิ่งหนีเข้าไปหลบภัยในวัดแก่งคอย ซึ่งตั้งอยู่ริมแม่น้ำป่าสักบริเวณใกล้กับตลาดแก่งคอย โดยเชื่อว่าด้วยบารมีของหลวงพ่อลา เกจิชื่อดังของวัดแก่งคอยแห่งนี้จะช่วยป้องกันภยันตรายจากชาวบ้าน รวมทั้งทหารญี่ปุ่นที่พลอยวิ่งหนีมาหลบภายในวัดตามชาวบ้านไปด้วยได้ ย้อนรอยประวัติศาสตร์เที่ยวสถานที่ สงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งก็ดูเหมือนว่าจะเป็นความจริง เพราะในปัจจุบันยังมีอนุสาวรีย์ซึ่งทำมาจากเศษซากลูกระเบิดของฝ่ายสัมพันธมิตรที่ที่ลงมาในช่วงสงครามโลกครั้งที่2แต่กลับด้านแล้วไม่ระเบิดขึ้น เมื่อสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2เหล่าทหารญี่ปุ่นที่รอดชีวิตจึงได้รวมตัวกันสร้างรูปหล่อองค์พระขึ้นเพื่อเป็นการสำนึกถึงบุญคุณของวัดแก่งคอยที่ได้มาหลบภัยในวัดแห่งนี้อีกด้วย นอกจากนี้ยังมีอนุสรณ์สถานซึ่งสร้างขึ้นและสลักภาษาญี่ปุ่นเอาไว้เป็นการอนุสรณ์ต่อผู้วายชนม์ ช่วงประมาณปลายเดือนเมษายนของทุกปีอำเภอแก่งคอยจึงได้มีจัดการจัดงานรำลึกย้อนรอยสงครามโลกครั้งที่2 ขึ้นเป็นประจำในทุกปี ชื่องานอาจแตกต่างกันไปบ้างตามความเหมาะสมในแต่ละปี แต่โดยรวมบรรยากาศซึ่งจะอยู่ภายในวัดแก่งคอยแห่งนี้ จะมีการจำลองภาพในยุคสงครามโลกครั้งที่2  ซึ่งมีทหารญี่ปุ่นเข้ามาประจำการในเมืองแก่งคอย ทำให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสถึงบรรยากาศย้อนยุค รวมทั้งก็จะมีผู้สืบเชื้อสายจากเราทหารญี่ปุ่นผู้รอดตายกลับไปยังประเทศบ้านเกิดรวมทั้งลูกหลานของทหารที่เสียชีวิตอยู่ที่นี่ได้เดินทางกลับมาทำความเคารพอนุสาวรีย์ลำลึกสงครามโลกครั้งที่2ซึ่งตั้งอยู่ในวัดแก่งคอยแห่งนี้เป็นประจำทุกปี