เมื่อถึงเวลาก็ต้องพักผ่อน

เหน็ดเหนื่อยมาทั้งวันกับการทำกิจกรรมมากมาย ก็ถึงเวลาที่เราต้องพักผ่อนกันแล้วครับ แอร์เย็นฉ่ำกับเตียงนุ่มๆ พร้อมสำหรับการนอนหลับพักผ่อนกันแล้ว ว่าแต่ใครยังมีแรงเหลือจะเล่นน้ำหน้าห้องตัวเองก็ยังได้อยู่นะครับ

ม๊อนิ่ง ไม่มีไก่ขันแล้วนะครับสำหรับสมัยนี้ มีแต่เสียงนาฬิกาปลุกงิ้งๆ จากโทรศัพท์ของเรานี่แหละที่คอยหลอกหลอนโสดประสาทเราทุกวัน ขี้เกียจจังแทบไม่อยากจะลุกจากเตียงเล้ย แต่ก็ต้องฝืนลุกเพราะถึงเวลาอาหารเช้าแล้วหนาออเจ้า แม่การะเกดไม่ต้องไปโขลกน้ำพริก ตีกระเทียม ตั้งหม้อให้เหนื่อยแต่อย่างใด เพราะที่นี่เค้ามีอาหารเช้าบริการแบบ Full Option จัดเต็มกันเลยทีเดียว จะช้าไปใยไปจัดกันตามแบบฉบับหมูป่าผู้โหยหิวกันดีกว่า

รายการอาหารเช้าก็คงไม่ต่างจากโรงแรมระดับ 4-5 ดาวกันมากมายครับ ผมก็เล่นชิมซะทุกอย่าง อร่อยหมดทุกอย่างไม่มีที่ติ แต่ที่นี่เข้าดีตรงที่ทานอาหารเช้าพร้อมชมบรรยากาศทะเลไปด้วย เมื่อทานข้าวเสร็จก็ยังพอมีเวลาให้ถ่ายรูปได้อีก หรือจะไปนั่งตากแอร์เย็นๆ ที่ห้องก็ได้แล้วแต่ตามสะดวกเลย ส่วนผมก็เลือกที่จะไปลงสระน้ำสักอีกหนึ่งรอบ เอาแบบชุ่มฉ่ำไปเลย ฉ่ำปอดบวมน้ำกันพอแล้วก็เตรียมสัมภาระแพ็กกระเป๋าไปเช็คเอาท์ที่เคาน์เตอร์กันได้เลย คงเหมือนหลายๆ โรงแรมที่ต้องเช็อเอาท์ก่อน 12.00 น. ที่นี่ก็เช่นกันครับ เราก็ไปทำเรื่องที่เดิมตรงจุดที่เราเช็คอินนั่นแหละ แล้วเราก็นั่งรอในโซนที่โรงแรมเขาบริการ

ความพิเศษของเกาะกูดอย่างหนึ่งคือ การจะไปพักโรงแรมในคือนต่อไปหากเราเปลี่ยนสถานที่ เขาจะมีบริการรถรับส่งไว้คอยบริการเรา ที่สำคัญคือฟรี ที่จริงก็คงไม่ฟรีหรอกครับ แต่คงรวมมากับค่าเรือของเราไปแล้ว แต่ผมก็รู้สึกว่ามันยังฟรีอยู่น้า เพราะทั้งโรงแรมและพี่คนขับรถมีการติดต่อประสานงานกันตลอดเวลา คอยแจ้งเวลาที่รถจะมารับมีการบอกเวลาเป็นระยะ ประมาณ 12.20 น. ก็มีรถสองแถวมารับเพื่อไปอีกโรงแรมหนึ่ง เมื่อรถมาถึงพี่คนขับก็กระฉับกระเฉงรีบมาคอยบริการช่วยเรายกกระเป๋าให้เรา แต่ผมนี่ไม่ได้ให้พี่เขายก มีแต่จะช่วยคนอื่นยกขึ้นรถส่วนใหญ่ก็เป็นแขกฝรั่งแหละ ระหว่างทางก็มีคดเคี้ยวตลอดเวลา นี่ถ้าให้ขับเองเห็นว่าคงจะไม่ไหวแน่ ไม่ว่าใกล้หรือไกลพี่เขาก็ไปส่งครับ ส่งเราถึงที่ บริการดีแบบนี้ ยกนิ้วให้เลยครับ