จามส์เฮ้าส์ เกาะกูด รีสอร์ทสไตล์บูทีค ระดับห้าดาว

เกาะกูด ถือเป็นอีกหนึ่ง Destination ที่ใครหลายๆ คนเฝ้าฝันที่จะได้ไปเยือนสักครั้งในชีวิต ไม่เพียงแต่เฉพาะน้ำทะเลที่ใสราวกับกระจก และความอุดมสมบูรณ์ของระบบนิเวศน์เท่านั้น แต่เกาะกูดยังเป็นสวรรค์ของนักเดินทางหลายๆ คนที่ต้องการมาพักผ่อนหย่อนใจและรับการบริการแบบห้าดาว

จากรีสอร์ทหรูๆ ที่มีให้เลือกอยู่เพียงไม่กี่แห่ง และอีกหนึ่งรีสอร์ทที่ถือเป็นจุดหมายปลายทางของนักเดินทางที่แสวงหาประสบการณ์การพักผ่อนที่แตกต่าง ก็คือ จามส์เฮ้าส์ เกาะกูดเพราะจากการค้นหารีวิวในเว็บไซต์ ต่างพากันยกให้ จามส์เฮ้าส์นั้นอยู่ในลำดับต้นของทุกสถานบันรีวิวกันเลยครับ

จามส์เฮ้าส์ เกาะกูด เป็นรีสอร์ทสไตล์บูทีคระดับห้าดาว ที่แวดล้อมไปด้วยทัศนียภาพอันงดงามของธรรมชาติและความสมบูรณ์ของระบบนเวศ ภูเขาสีเขียวชอุ่ม และชายหาดทรายขาวละเอียด ที่ทอดตัวยาวตัดกับน้ำทะเลสีฟ้าใส นอกจากความงดงามของสถานที่ตั้งแล้ว จามส์เฮ้าส์ แห่งนี้ยังมีเรื่องราวที่น่าสนใจ ที่รอคอยให้นักเดินทางได้เดินทางมาค้นหาและสัมผัสมนต์สเน่ห์แห่งความเป็น “จามส์เฮ้าส์” แห่งนี้ ทำให้ จามส์เฮ้าส์ ไม่ได้เพียงเป็นแค่สถานที่พักผ่อนสำหรับนักท่องเที่ยวเท่านั้น แต่ยังเป็นสถานที่ที่จะให้นักเดินทางทุกท่านที่ได้เดินทางมาเยี่ยมเยียน ได้สัมผัสกับเรื่องราวอันทรงคุณค่าของ จามส์เฮ้าส์ที่เราจะได้สัมผัสไปพร้อมกันและมนต์เสน่ห์ที่กล่าวถึงก็คือชื่อของรีสอร์ท ซึ่งแท้จริงแล้ว “จาม” เป็นชื่อของชนเผ่าหนึ่งที่มีถิ่นกำเนิดอยู่ทางตอนใต้ของประเทศเวียดนาม ชนเผ่าจามมีชื่อเสียงในเรื่องของการทอผ้าใหมและการปลูกข้าว ซึ่งทำให้ “ใหม” และ “รวงข้าว” ถูกใช้เป็นแรงบันดาลใจหลักในสร้างรีสอร์ทแห่งนี้ ดังนั้น การออกแบบและตกแต่งของรีสอร์ทได้ถูกถ่ายทอดผ่านองค์ประกอบสองอย่างนี้เป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบโลโก้, การตั้งชื่อห้องอาหาร บาร์ หรือสปาตลอดจนการแทรกกลิ่นอายอารยธรรม “จาม” ในเกือบทุกๆ ส่วนของรีสอร์ท อาทิเช่น การออกแบบตกแต่งห้องพักที่มีประดับภาพศิลปะฝาผนังที่สร้างสรรค์ด้วยผ้าใหม, การออกแบบเครื่องแต่งกายของพนักงานที่ใช้ผ้าใหมเป็นวัสดุหลัก, เมนูอาหารและเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของข้าว ตลอดจนทรีตเมนต์สปาที่นำเอารังใหมทองคำมาเป็นส่วนหนึ่งในการปรนนิบัติผิว เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม นอกจาก จามส์เฮ้าส์ จะนำเอาเอกลักษณ์ของชนเผ่าจามมาเป็นส่วนหนึ่งของการออกแบบแล้ว จามส์เฮ้าส์ ก็ยังไม่ลืมที่จะนำความเป็นท้องถิ่นและความเป็นไทยมาผสมผสานอีกด้วย เช่น การออกแบบห้องพักแบบวิลล่าที่หลังคาถูกออกแบบให้มีลักษณะคล้ายหมวกงอบ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ประจำจังหวัดตราด การนำผลิตภัณฑ์สัญชาติไทยมาให้บริการ เช่น amenity ในห้องพักที่ใช้แบรนด์ THANN เป็นต้น